วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อยากสำเร็จต้องฟังให้เป็น

คำกล่าวโบราณ กล่าวไว้ว่า ปากมีปากเดียว หูมีสองหู แต่ใยมนุษย์ถึงพูดมากกว่าฟัง
     ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การงาน ครอบครัวหรือการเมืองระดับประเทศ หากท่านสังเกตุให้ลึกแต่ละปัญหานั้นๆจะพบว่า เกิดจากแต่ละฝ่ายอยากจะพูดแต่ในเรื่องของตนเองจนไม่ฟังเรื่องของคนอื่น จริงไม?
      นักขายตรงมือใหม่อย่างเราๆท่านๆ อาจจะกำลังฝึกฝนเรื่องการพูด ฝึกการเป็นวิทยากร พิธีกร บางท่านใช้ค่าใช้จ่ายเรื่องนี้ไปเยอะมาก ฝึกจนตนเองเก่งกล้าสามารถพูดได้แบบมืออาชีพ แต่สิ่งหนึ่งที่มองข้ามไปเหมือนกับการมองเหรียญเพียงด้านเดียวตลอดเวลา คือ การฝึกฝนการฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
    กูรูนักพูดได้เคยกล่าวว่า " หากท่านยังฟังไม่เป็น อย่าฝันที่จะพูดได้ดี"  หากฟังก็ต้องฟังให้ได้ยินนั้นเอง นั้นหมายความว่า การฟังที่มีประสิทธิภาพจะทำให้คุณเข้าใจผู้พูดมากขึ้น และเมื่อคุณแปรเปลี่ยนเป็นผู้พูดย่อมจะพูดในเรื่องที่ผู้ฟังอยากฟัง ตรงประเด็นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
   การทำขายตรงแบบดั้งเดิมมักปลูกฝังให้ show the plan share the product หรือ เห็นหน้าผู้มุ่งหวังไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงเขียนแผนกลมๆ แชร์ประสบกาณ์สินค้าทันที แบบแผนนี้มักสร้างความน่าเบื่อให้กับผู้มุ่งหวังยุคใหม่ นักขายตรงมือใหม่หากอยากประสบความสำเร็จในสายอาชีพนี้อย่างจริงจัง ต้องมาปรับทัศนคติใหม่จาก เข้าหาผู้มุ่งหวังเพื่อพูดอย่างเดียว เข้าไปฟังก่อน โดยหลักการฟังให้ได้เรื่องมีดังนี้
     - เปิดใจตนเองให้กว้าง ตั้งสติเพื่อจะฟังให้ดี
     - จับประเด็นให้ได้ว่า ความต้องการจริงๆของผู้มุ่งหวัง คืออะไร?
     - โต้ตอบแสดงความสนใจในเรื่องที่ผู้มุ่งหวังพูดบ้างพอประมาณ
     - คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ประมวลผล เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดให้กับผู้มุ่งหวัง
       นักขายตรงมือใหม่ อย่างเราๆเมื่อตั้งใจฟังตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว ท่านย่อมจะเลือกคำพูดที่ดีที่สุดส่งผ่านไปยังพูดมุ่งหวังโดยใช้เวลาไม่มากนัก และสุดท้ายนำไปสู่การปิดการขายอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
       เขื่อเถอะครับว่า คนที่พูดก็อยากให้มีคนฟัง พูดแต่ไม่มีคนฟังย่อมไม่มีความหมาย ต่อไปนี้นักขายตรงมือใหม่อยากเป็นนักพูดที่ดี ต้องฝึกเรื่องการฟังที่ดี ฟังให้ได้ยิน เพื่อความสำเร็จอย่างแท้จริง

หากอยากใหญ่ ต้องใส่ใจการฟัง

เขียนโดย
ภาสกร ผุยพงษ์
รองกรรมการผู้จัดการบจก.ริชไทมเน็ตเวิร์ค
    

วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มองตน พัฒนาตน ความสำเร็จเกิดแก่ตนแน่นอน

       ความสำเร็จที่แท้ คือ การมองให้ลึกไปในตน และกล้าที่จะยอมรับในความบกพร่อง กล้าที่จะบอกว่า ตนเองไม่รู้อะไร เพื่อจะได้ต่อเติมในส่วนที่ขาดได้
      
      นักธุรกิจเครือข่ายขายตรงมือใหม่ทั้งหลาย พึงระลึกเสมอว่า ทุกคนปรารถนาความสำเร็จ ความสำเร็จช่างหอมหวาน น่าสัมผัส แต่กว่าจะไปถึงขนาดนั้นรู้หรือไม่ว่า เราจะต้องใช้ปัจจัยอะไรบ้าง?
      เรามักมองแต่เรื่องที่ไกลจากตัวเอง โทษฟ้า เทวดา อากาศ ดวง สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ควบคุมได้ยาก แต่ลืมมองให้ลึกมายังเรื่องที่ควบได้ดีกว่า นั้นคือ เรื่องของตนเอง
     ความสำเร็จ เริ่มจากเราปรารถนาเอง เราลงมือเอง เราแสวงหาเอง เราเองทั้งนั้น แต่เมื่อผิดพลาดคลาดความหวังขึ้นมา มักมองไปที่เรื่องอื่นที่ไม่ใช่ตน ทำไม?
     นักขายตรงมือใหม่อย่างเรา ควรจะปรับทัศนคติแบบ360องศา สร้างความเข้าใจให้กระจ่างว่า การพัฒนาตนเองในแง่ต่างๆ เช่น พัฒนาทักษะวิธีคิด,การพูดในที่ประชุม,การถ่ายทอดและการนำเสนอ,การบริหารคน, ฯลฯ ยิ่งเราพัฒนาตนเองมากเพียงใด เราจึงจะมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น คุณค่าที่มีมากขึ้นจะทำให้คนมองเห็นและมั่นใจ คนที่มีคุณค่ามากพอย่อมจะทำให้คนอยากเข้าใกล้ บางครั้งเราแทบไม่ต้องเอ่ยปากชวนทำธุรกิจกับเขา เขาจะขอสมัครกับเราเอง
    การเติมคุณค่าตน ย่อมไม่ได้หมายความว่า ไปดูถูกคุณค่าคนอื่น คุณค่าตนยิ่งจะเท่าทวีคูณมากขึ้น หากว่าเราเชิดชูคุณค่าของคนอื่น

    จงเติมคุณค่าของตนแบบไม่รู้จบ แล้วความสำเร็จจะวิ่งหาคุณทุกวัน

เขียนโดย
ภาสกร ผุยพงษ์
รองกรรมการผู้จัดการ บจก.ริชไทมเน็ตเวิร์ค

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

3 ข้อพึงระลึกสำหรับมือใหม่หัดขายตรง

     คนส่วนใหญ่มองความสำเร็จเรื่องการทำขายตรง เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ต้องทำอะไรมาก แต่หารู้ไม่ว่า นั้นเป็นเพียงปรากฎการณ์ที่เราคิดเข้าข้างตัวเองเกินไป จนทำให้มองไม่เห็นความจริง
     ไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย ทุกอย่างย่อมต้องมีการลงทุน ไม่ลงทุนแรง ก็ลงทุนเวลา ไม่ลงทุนเวลา ก็ลงทุนเงิน ไม่ลงทุนเงิน ก็ลงทุนความรู้สึก ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง หรือไม่ก็ต้องลงทุนทุกอย่าง
       การทำธุรกิจเครือข่ายขายตรงในแบบฉบับมือใหม่แบบเราๆ ท่านๆ ก็ย่อมต้องมีการลงทุนทุกสิ่งทุกอย่าง และสิ่งที่อยากจะฝากไว้ในหัวใจของนักมือใหม่ขายตรงแต่ละท่านมี 3 ข้อหลักๆดังนี่
      1. เข้าใจให้ถ่องแท้ - ก่อนจะลงมือทำขายตรง เราควรจะมีการศึกษาให้ถ่องแท้ถึงแนวคิด,วิธีการที่ถูกต้องของการทำธุรกิจขายตรง ปรับทัศนคติเรื่องการมองขายตรงแบบการช่วยคนอื่นสำเร็จ คือ ความสำเร็จของเรา เข้าใจให้ชัดว่านี้ คือ ธุรกิจของตนเอง เรียนรู้ถึงวิธีคิดแบบผู้ประกอบการจริงๆ
     2. ลงมือทำ - เมื่อศึกษาให้เข้าใจแล้วอย่าลืมที่จะลงมือทำทันที ทำทุกที ทำทุกเวลา หัดเป็นนักฉวยโอกาสให้เป็น อย่ารอแต่โอกาสวิ่งมาหส เราต้องสร้างโอกาสขึ้นมาให้เป็น หากเรียนรู้ เข้าใจ แต่ปราศจากการลงมือทำ ย่อมจะยังไม่เกิดการเี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นแน่นอน
    3. อดทนให้มากพอ - นักขายตรงมือใหม่ มักมีปัญหาในช่วงแรกๆโดยเฉพาะ 3-6 เดือนแรก ซึ่งถือว่าเป็นช่วงฝึกงานของขายตรง นักขายตรงมืิใหม่เมื่อเจออุปสรรคมักถือเป็นเรื่องใหญ่ อาจเกิดอาการท้อแท้ หากแก้ไขไม่ทันอาจจะเลิกทำไปเลยทีเดียว ฉะนั้นเมื่อเกิดอาการท้อแท้ พยายามหากำลังใจจากแหล่งต่างๆไม่ว่าจะเป็น จากผู้แนะนำ หนังสือ ซีดี หรือเมื่อเกิดปัญหาเกิดอาการท้อแท้ ให้พยายามท่องคาถา อดทนๆๆๆๆๆๆ แล้วนึกถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ นึกถึงคนที่เรารัก ที่เราจะมอบความสำเร็จให้ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา และสิ่งสำคัญที่จะเสริมสร้างกำลังใจอย่างดี คือ การเข้าคอร์สฝึกอบรม จะทำให้ท่านได้พบกับผู้คนหลากหลายรูปแบบ ซึ่งบางคนดูแย่กว่าท่านอีกเขายังสู้ฝ่าฝันสำเร็จได้

3 หลักสำคัญนี้จะเป็นหลักยึดที่สำคัญที่จะนำพานักขายตรงมือใหม่อย่างเราไปถึงจุดหมายได้อย่างแท้จริง
อย่าเพิ่งเชื่อผม จนกว่าจะทำจริงจังดูสักตั้ง

เขียนโดย
ภาสกร. ผุยพงษ์
รองประธานกรรมการบจก.ริชไทมเน็ตเวิร์ค



วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อ่านแผนที่ให้ออก ก่อนออกเดินทาง

อ่านแผนที่ยังไม่ออก ยังกล้าออกเดินทาง นี่มันคนตาบอดชัดๆ
     เมื่อท่านจะออกเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง โดยเฉพาะที่ที่ไม่คุ้นเคย ท่านจะเสี่ยงดุ่มเดินไปโดยไม่เปิดแผนที่ดู นั้นมันเสี่ยงเกินไปที่จะรับได้ 
     
มือใหม่หัดขายตรงอย่างเราๆท่านๆ ฟังทางนี้ครับ อย่าเพิ่งหลงเชื่อกับพลังแห่งการโมติเวตแบบแรงแรงส์ เมือฟังเสร็จแล้วกรุณาถามหาแผนที่ความสำเร็จจากผู้ประสบความสำเร็จหรือวิทยากรที่กำลังถ่ายถอดให้ท่านฟังอยู่ และเมื่อๆด้แผนที่มาแล้ว กรุณาอย่าพับเก็บไว้กับที่ ควรที่จะศึกษาแผนที่นั้นๆให้กระจ่างแจ้งมากพอ มากพอที่จะสร้างความมั่นใจว่า
   - แผนที่นี้เป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่จะเดินทางสู่ความสำเร็จได้?
   - แผนที่นี้มีเครื่องมืออะไรที่อยู่ระหว่างทางที่จะช่วยสนับสนุนความสำเร็จนี้ได้? 
   - เวลาเกิดผิดพลาดขึ้นในระหว่างเดินทางมีผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาเสนอแนะเราหรือไม่?
   - แผนที่นี้ง่ายเพียงใดที่จะสื่อสารต่อ บอกต่อกับผู้ที่เดินตามหลังเรามาได้
    เหล่านี้คือปัจจัยเบื้องต้นที่จะใช้ในการพิจารณาแผนที่แห่งความสำเร็จก่อนออกเดิน หากท่านศึกษาแล้วยังไม่แน่ใจให้สอบถามหาข้อมูลจนกระจ่าง ผมย้ำนะครับว่า ถ้าไม่แน่ใจ ไม่เข้าใจแผนที่ อย่าออกเดินทางเป็นอันขาด 

    อ่านแผนที่ให้ออก บอกคนอื่นให้ได้ ความสำเร็จไปอีกไม่ไกล คุณทำได้แน่นอน Yessssssss

เขียนโดย
ภาสกร. ผุยพงษ์
รองกรรมการผู้จัดการบจก.ริชไทม เน็ตเวิร์ค