วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

โมติเวตหรือโมติว๊าก?

                     

      แค่เสียงดังกับบรรยากาศเป็นใจ บวกพลังแห่งจิตวิทยาฝูงชน นั้นยังไม่มากพอที่จะเป็นเชื้อเพลิงให้ท่านก้าวไปสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่ายขายตรง
      นักธุรกิจเครือข่ายขายตรงมือใหม่หัดขับ อย่างเราๆท่านๆอาจกำลังตื่นเต้นกับพลังแห่งเสียงโมติเวตและบรรยากาศ เร้าให้ขนลุกซู่ตบมือกันจนมือแทบแตก จนท่านอินกับสิ่งนี้ชนิดที่ว่าได้รับเงินล้าน ณ บัดนั้นแล้ว แต่ช้าก่อน......
        การโมติเวตหรือการสร้างบรรยากาศปลุกเร้าให้เราอยากจะร่วมธุรกิจพันล้าน หมื่นล้าน(ตามแรงโมติเวต เขามักว่าอย่างงั้น) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของงานขายตรง แต่เมื่อท่านมองลึกลงไปโดยใช้วิจารณญาณสัมผัสถึงความเป็นจริง ท่านจะพบบางอย่างที่น่าสนใจ ซึ่งผมมีข้อสังเกตต่างๆดังนี้
     - การโมติเวตในวงการขายตรง มักเชิญผู้นำที่ประสบความสำเร็จในบริษัทนั้นๆมาเร้าโลมอารมณ์ของคุณ ด้วยสิ่งที่เข้าทำได้ เงินล้าน รถกี่คัน บ้านกี่หลัง โชว์รายได้ให้เห็นกันจะๆแบบไม่เกรงกลัวสรรพากร (อย่างหลังต้องระวังนะคร้าบบบ) สังเกตดีๆว่า เขาจะพูดเรื่องตัวเองซะส่วนใหญ่ จนเราคล้อยตาม คล้ายกับว่า วิญญาณของเขามาสิงร่างเราในตอนนั้น ได้สติคืนมา มักลืมไปว่า แล้วเราจะทำอย่างไรต่อดีหนอ?
     - การโมติเวตที่ใช้การผสมผสานที่เรียกว่า การใช้บรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็น แสง สี เสียง หน้าม้า หน้าแมว มันทำให้คุณอยากควักกระเป๋าจ่ายตังค์แบบไม่รู้ตัว พยายามแยกแยะดีๆใช้สติปัญญารับฟังดีๆครับก่อนจะตัดสินใจ
     - การโมติเวตในวงการขายตรง เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ ต้องใช้เรื่อยๆไม่ว่าจะตั้งแต่การจัดประชุมเปิดใจ,ในคอร์สต่อเนื่องหรือเมื่อใดที่ทีมงานเริ่มหมดกำลังใจ นักขายตรงมือใหม่อย่างเราๆท่านๆช่วงทำแรกๆ มักมองขายตรงแบบเลิศหรู(อาจจะเป็นเพราะแรงโมติเวตอย่างบ้าคลั่ง) จนลืมว่าในความเป็นจริงไม่มีอะไร เป็นไปตามความคาดหวังทุกอย่าง เผื่อใจไว้บ้าง เปิดใจกว้างๆ เมื่อผิดพลาดพยายามเรียนรู้และปรับปรุงจนตนเองสำเร็จให้ได้

   ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้มีเจตนาจงเกลียดจงชัง การโมติเวตนะครับ แต่ผมเห็นด้วยว่าโมติเวตเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แต่ ผมฝันอยากเห็นการโมติเวตแบบของแท้ๆ ที่เจือไปด้วยความจริงใจ เป็นไปได้ มีกลยุทธ์ไปสู่ความสำเร็จได้อย่างชัดเจน มีการทำวิจัยซะบ้างว่าคนฟังเขาอยากฟังอะไร มิใช้พูดแต่เรื่องของตนเอง

  ตราบเท่าที่มนุษย์ยังมีจิตใจ การโมติเวตให้มนุษย์รู้ถึงคุณค่าตนและคนอื่นยังมีความจำเป็นอย่างขาดไม่ได้ แต่หากการโมติเวตถูกเจือไว้ด้วยความโลภ เห็นแก่ตัว ผมจะขอเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การโมติว๊าก มากกว่า จริงไมครับ?

ปล.คราวหน้าผมจะเขียนถึง การโมติเวตตัวเอง แล้วเจอกันครับ
เขียนโดย
ภาสกร. ผุยพงษ์
รองประธานกรรมการบจก.ริชไทม เน็ตเวิร์ค


วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นักขายตรงมือใหม่หาแรงบันดาลใจไร้ขอบเขต

       แรงบันดาลใจคือสิ่งสำคัญในการจะสร้างหรือลงมือทำอะไรสักอย่่างเพื่อความสำเร็จจริงๆ แรงบันดาลใจอาจจะหาได้ไม่ยาก แต่จะรักษาแรงบันดาลใจไว้อยู่กับเรานานๆเป็นเรื่องที่ยากนัก

     คนเราจะทำงานอะไรสักอย่างมีองค์ประกอบมากมายที่จะส่งเสริมความสำเร็จ หนึ่งในสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะลงมือทำมักจะมีคำว่า " แรงบันดาลใจเสมอ"  
    แรงบันดาลใจอาจจะเป็นบุคคล สิ่งของ หรือบรรยากาศ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่บวกๆกันแล้วจะเป็นแรงส่งหนุนนำให้เกิดแรงบันดาลใจขึ้น
   
     วกมาถึงเรื่องการทำธุรกิจเครือข่ายขายตรงสำหรับนักขายตรงมือใหม่อย่างเราๆท่านๆ มักพบว่าแรงบันดาลใจที่นำพาทุกท่านเข้าสู่วงการ มักมาจากผู้ประสบความสำเร็จที่ประกาศก้องอยู่บนเวที นั่นก็หมายความว่า ท่านมาด้วยความหวัง หวังเรื่องรายได้ หวังเรื่องชื่อเสียงเกียรติยศ แต่แรงบันดาลใจเพียงเท่านี้ผมมองว่ายังไม่มากพอที่จะทำให้คุณอดทนต่ออุปสรรคต่างๆเพื่อจะข้ามพ้นไปสู่ความสำเร็จจริงๆได้ 

      ผมสังเกตว่า นักธุรกิจขายตรงที่ประสบความสำเร็จจริงๆ นอกจากเรื่องเงินๆทองๆหรือเกียรติยศที่คนทั่วๆไปเขาปรารถนา มากไปกว่านั้น เขามองไปถึงเรื่อง ความสุขของการได้ลงมือทำซึ่งผมมองว่าสิ่งเหล่านี้ตีค่าเป็นเงินได้ยากมาก มันเป็นเหมือนการใช้งานเติมเต็มคุณค่าให้กับชีวิตตนเองมากกว่า ทำให้ผมนึกถึงคำท่านพุทธทาสที่ท่านเคยกล่าวไว้ เรื่องของการทำงานเพื่องานที่ว่า " ถ้าทำงานเพื่อเงินรอให้ได้เงินถึงจะมีความสุข แต่ถ้าทำงานเพื่องาน แค่ลงมือทำก็มีความสุขแล้ว"

     นักขายตรงมือใหม่ทั้งหลาย หากท่านค้นพบแรงบันดาลใจที่จะส่งให้ท่านเข้ามาสู่วงการขายตรงแล้ว จงอย่าลืมทะนุถนอมแรงบันดาลใจให้อยู่กับเรานานๆ โดยการลงมือทำด้วยความสุขที่ได้ทำ สุขที่ได้แบ่งปันประสบการณ์ดีๆเรื่อง สุขภาพ รายได้ สังคมดีๆ มิตรภาพดีๆที่คุุณได้รับจากการทำธุรกิจเครือข่ายขายตรง

     แรงบันดาลใจที่เริ่มต้นจากการที่คิดจะให้ เรายิ่งจะได้เกินความคาดหมาย ขอแรงบันดาลใจดีๆจงอยู่คู่คุณตลอดไป

เขียนโดย
ภาสกร. ผุยพงษ์
รองกรรมการผู้จัดการบจก.ริชไทม เน็ตเวิร์ค




วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เตรียมตัวก่อนสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่ายขายตรง

       หลายคนมองเพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะสำเร็จ ทำอย่างไรถึงจะรวย แปลก...ไม่ค่อยมองไปถึงเรื่อง เมื่อสำเร็จแล้ว รวยแล้วจะทำอย่างไรต่อ ทำอย่างกับว่าจะไม่รวย ยังไงก็ยังงั้น...
        
      ความสำเร็จอันหวมหวน คล้ายกับดอกไม้ที่ทุกคนปรารถนา แต่อาจหลงลืมไปว่าความหอมนั้นมีอยู่เพียงไม่นาน เปรียบกับ ความสำเร็จของนักธุรกิจเครือข่ายขายตรงเช่นกัน
    
       นักขายตรงมือใหม่ทั้งหลายฟังทางนี้....

      หากท่านจะหาวิถีทางสู่ความสำเร็จ บทความชิ้นนี้ไม่มีให้แต่หากท่านถามว่า สำเร็จแล้วไปไงต่อ ท่านมาถูกทางแล้ว

      ภาพความสำเร็จที่รับรายได้เป็นล้าน มีรถหรูๆขับ มีแต่คนปรบมือ แซ่ซ้องด้วยคำชื่นชม ไปที่ไหนก็มีแต่คนต้อนรับอยากใกล้ชิด อยากจับมือกับผู้สำเร็จ เป็นภาพที่เรามักพบเห็นจนชิ้นตากับความสำเร็จในขายตรงบริษัทต่างๆ สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นอดีตเมื่อเวลาผ่านพ้นไป ผู้ประสบความสำเร็จบางคนก็อยู่รอดปลอดภัยด้วนระบบบริหารจัดการ ด้านการเงิน ด้านการใช้ชีวิต มีเงินงอกเงยเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ด้วยเครือข่ายคุณภาพดีที่เขาใช้ใจเป็นเดิมพัน แต่บางคนไม่อย่างนั้น หลงติดกับวัตถุ ถลำลึกไปสู่ความโลภ เงินที่หาได้อย่างรวดเร็วกลับอัตรธานหายหวับไปกับตาในเวลาอันรวดเร็ว สิ่งที่จะได้ยินจากปากของบุคคลประเภทหลังนี้ คือ การพร่ำเพ้อถึง ความสำเร็จเดิมๆ ชนิดที่ว่า เงินเคยได้เป็นสิบๆ ร้อยๆล้าน มีรถหรู บ้านใหม่ ใต้องค์กรมีคนเป็นหมื่นเป็นแสน แต่พอมาบริษัทใหม่ เหลี่ยวหาใครก็ไม่มีใครตามมา สุดท้ายก็มีเพียง "ลมที่หลุดออกมาจากปากแล้วก็หายไปในสายลม"

     ต้องขอบคุณบุคคลประเภทหลังที่ผมกล่าวถึง เขาเป็นครูให้ผมได้อย่างดี ต่อการคิดต่อในเรื่องที่ว่า "ความสำเร็จเดิมๆ กับวิธีการเดิมๆ บางอย่างอาจจะใช้ไม่ได้กับ กาลเวลาที่เปลี่ยนไป" ลองวิเคราะห์ปัจจัยให้ลึกลงไปว่า บริบทต่างๆในตอนที่คุณสำเร็จ เช่น ความสดใหม่ของเรื่องขายตรง,กฎหมายขายตรง,ความเข้าใจเรื่องขายตรง และอื่นๆอีกมากมาย สมัยนั้นกับสมัยนี้ย่อมต่างกันมากโข เพราะฉะนั้นผมย้ำอีกครั้งว่า คุณไม่มีทางที่จะทำแบบเดิมแล้วสำเร็จซ้ำเหมือนเดิมอีกได้

    เราวกไปเรื่องวิธีการแห่งความสำเร็จมากพอแล้ว  คร่าวนี้เรามามุ่งประเด็น เรื่อง เมือ่เราประสบความสำเร็จแล้ว จะไปยังไงต่อ? ที่คิดแบบนี้เพราะว่าตอนนี้เราข้ามพ้นเรื่อง ลงมือทำเพื่อความสำเร็จแต่แรกแล้วนะครับ ถ้ายังคิดว่าลงมือทำแล้วไม่สำเร็จอย่าลงมือทำตั้งแต่เริ่มต้นเลยดีกว่าครับ...เสียเวลาเปล่า

     การรักษาแชมป์หรือการรักษาความสำเร็จให้มีความต่อเนื่องนั้นเป็นเรื่องที่เราควรจะคิดไปพร้อมกับ การวางแผนวิธีการสู่ความสำเร็จ ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยคงความสำเร็จให้อยู่ได้ตราบนานเท่านานมีดังนี้

 @ ระลึกเสมอว่าความสำเร็จเป็นเพียงสิ่งที่ถูกสมมติขึ้นมา ความสำเร็จแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป ตามความพอใจ จงวางความสำเร็จบนความพอใจในความพอเพียง 
@ คุณธรม ความรัก และศรัทธาเท่านั้นที่ความสำเร็จอยากจะคบหาเป็นเพื่อนตายตลอดเป็น สำรวจตนเองตลอดเวลาว่า 3 สิ่งนี้เราพร่องไปหรือเปล่า ถ้าพร่องรีบเติม ก่อนความสำเร็จจะจากคุณไป
@ ทำแบบเดิม ความสำเร็จเดิมๆ บางอย่างไม่อาจสามารถใช้กับความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ได้ ดังนั้นคุณควรจะแสวงหาวิธีการใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆมาใช้ในการทำธุรกิจขายตรงบ่้าง
@ อย่าทำเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ หวงรายได้ที่เกิดจากความสำเร็จเอาไว้ไม่นำไปทำให้เกิดการงอกเงย บางทีเราอาจต้องไปศึกษาช่องทางการลงทุนอื้นๆเพิ่มเติมไว้ เช่น ลงทุนในกองทุนต่างๆ ลงทุนในหุ้น ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การะจายความเสี่ยงออกไป ดังเช่นที่เคยได้ยินมาว่า อย่าเก็บไข่หลายๆใบไว้ในตระกล้าใบเดียว
@ ความสำเร็จ ย่อมอยู่กับผู้เข้าใจความสำเร็จอย่างแท้จริง แต่หากไม่รู้เรื่องความสำเร็จ แล้วไปอวดรู้และนำไปอวดอ้างต่อ ความสำเร็จจะเล่นงานคุณจนอ่วมเลยทีเดียว ฉะนั้นจงทำตัวเป็นแก้วว่างเสมอ ศึกษาเรียนรู้ในเรื่องของการพัฒนาความคิดที่ถูกต้องในการทำธุรกิจขายตรงอย่างไรจึงจะรักษาความสำเร็จไว้ได้ จงลงทุนกับความรู้ให้มาก เช่น การเข้าสัมนา ซื้อหนังสือ ซีดี แล้วความรู้นั้นจะย้อนกลับมารักษาความสำเร็จให้อยู่กับเราตราบนานเท่านาน

เป็นแชมป์ว่ายาก แต่การรักษาแชมป์ยากกว่า สำเร็จแล้วว่าแน่ แต่รักษาความสำเร็จได้ยาวนาน นั่นคือ แน่กว่า

เขียนโดย
ภาสกร ผุยพงษ์
รองกรรมการผู้จัดการบจก.ริชไทม เน็ตเวิร์ค



ปรับทัศนคตินักขายตรงมือใหมฺ่.....สิ่งที่ได้มากกว่าเงิน

   เป้าหมายของคนส่วนใหญ่ คือ ทำงานเพื่อเงิน แต่เงินคงไม่ใช่อะไรทั้งหมดของชีวิตขนาดนั้น
     ทุกคนมีเป้าหมายมี่แตกต่างกันไปในชีวิต ฝันเล็กฝันใหญ่แล้วแต่จะฝันกันไป แต่เพราะความฝันที่เปลียนไปเป็นเป้าหมาย จึงทำให้วันทุกวันมีความหมาย

      นักธุรกิจขายตรงมือใหม่หัดทำอย่างเราๆท่านๆ ผมเชื่อมั่นว่า ก็ต้องมีแรงผลักดันภายในบางอย่างที่จะเป็นแรงส่งให้ท่านเข้าสู่วงการ ธุรกิจขายตรง หนึ่งในแรงผลักดันนั้น คือ เรื่องเงินๆทองๆ แต่.......ช้าก่อน......
       
      จริงอยู่ว่าเรื่องเงินทองเป็นสิ่งสำคัญ แต่อีกคมหนึ่งของเงินอาจทำให้เราหลงลืมสิ่งมีค่าอื่นๆไป เรามามดูกันต่อว่า นอกจากเงินแล้ว ธุรกิจเครือข่ายขายตรงให้อะไรกับเราอีกบ้าง......

      การเข้าสู่วงการธุรกิจขายตรง เหมือนกับการเปิดโอกาสให้กับตัวเอง ให้มาพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หลากหลาย ได้เจอผู้คนหลากหลายวงการ ได้ท่องเที่ยวไปทุกที่ที่ไม่เคยไป รวมถึงการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้กับตำราเล่มใหญ่ คือ บุคคลแห่งความสำเร็จ หลากหลายท่านที่ถ่ายทอดวิชาเศรษฐีให้เราแบบฟรีๆ เท่าที่เราอยากจะแสวงหาได้ และเพราะการเปิดกว้างของธุรกิจเครือข่ายขายตรง จึงเป็นเหมือนการเปิดเวทีให้กับผู้คนไม่จำกัดชนชั้น เพศ วุฒิการศึกษา ขายตรงขะหล่อหลอมให้คนธรรมดาคนหนึ่ง กลายเป็นยอดคนได้ในเวลาไม่มากนัก
  
     คุณค่าและประสบการณ์ที่ได้พบเจอผู้คนทุกประเภทตั้งแต่ดีสุดๆไปจนถึงเลวติดดิน จะหล่อหลอมให้ท่านที่อยู่ในวงการขายตรงสามารถที่จะใช้ประสบการณ์เหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจประเภทต่างๆเท่าที่ท่านจะใช้รายได้ของขายตรง ไปขยายโอกาสทางธุรกิจของท่านต่อไป

    หากเรามองการทำธุรกิจขายตรงให้พ้นแค่เรื่องเงิน ผมมองว่าท่านจะได้พบกับโอกาสแห่งการเปลี่ยนแปลง วิธีคิด นำสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่างแท้จริง เพียงท่านเปิดใจฝห้กว้างมากพอ เรียนรู้ อม้จะมีดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ผมเชื่อว่าสิ่งดีๆมีมากกว่า และสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นทำให้สิ่งดีๆมีค่ามากขึ้นอีก
   ฉะนั้นอย่างเพิ่งเชื่อ จนกว่าจะใช้วิจารณญานและปัญญาของท่านสัมผัสเอง

เขียนโดย
ภาสกร ผุยพงษ์
รองประธานกรรมการ บจก.ริชไทม เน็ตเวิร์ค

วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คำถามยอดฮิต ทำไมสินค้าขายตรงราคาถึงดูสูงกว่าปกติ?

    ต้องเข้าใจว่า สิ่งต่างๆมีเหตุผลของมัน และผมเชื่อว่าถ้าเราศึกษาจนเข้าใจเราจะใช้สิ่งนั้นเปลี่ยนชีวิตเราได้
        หนึ่งใน คำถามยอดฮิตของมือใหม่หัดขายตรง คือ ทำไมสินค้าในระบบขายตรงถึงดูแพงกว่าสินค้าระบบปกตินัก. เพื่อให้เกิดความกระจ่างทางปััญญา เราต้องเริ่มต้นตั้งคำถามกันก่อนว่า "ราคาสินค้าของธุรกิจขายตรงมีหลักคิดหรือเหตุผลมาจากไหน?"

         ก่อนอื่นผมต้องขออธิบายหลักการตั้งราคาของสินค้า แบบซื้อมาขายไปทั่วๆไป หรือ ที่เรียกว่าขายแบบซิงเกิล การตั้งราคาเป็นผลรวมจากต้นทุน+การตลาดรวมถึงโฆษณา+การจัดการ(สต๊อคสินค้า/จ้างพนักงาน/สาขา/การขนส่งฯลฯ) และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมออกมาเป็นการตั้งราคาสินค้า 1 ชิ้น และส่วนใหญ่การผลิตในแบบปริมาณมากๆหรือเป็นแบบแมส ต้นทุนต่อหน่วยจะถูกมากๆ และเมื่อวิเคราะห์ลึกๆไปถึงองค์ประกอบในสินค้านั้นๆจะเลือกใช้แบบมาตรฐานทั่วๆไป ผู้ผลิตคงไม่กล้าลงทุนใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงเพราะต้นทุนจะสูงเกินไป นี้คือที่มาที่ไปของการตั้งราคาสินค้าตามท้องตลาดทั่วไป
     
        สำหรับการตั้งราคาสินค้าของธุรกิจขายตรง จะมีหลักคิดตั้งแต่การเฟ้นหาสินค้านวตกรรม หาได้ยากในท้องตลาดทั่วไป เช่น กาแฟก็ต้องเป็นกาแฟที่มีส่วนผสมพิเศษ ผ่านการค้นคิดวิจัยมาพอสมควร เป็นต้น และที่สำคัญ คือ การคัดสรรวัตถุดิบที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และที่สำคัญ คือ การกำหนดราคาที่ต้องพิจารณาถึง ต้นทุนการจัดการในส่วนของบริษัทและการจัดจ่ายค่าคอมมิชชั่นหรือค่าการตลาดให้กับนักธุรกิจเครือข่ายขายตรงด้วย เมื่อพิจารณาอย่างครบถ้วนกระบวนความแล้ว สินค้าขายตรงจึงดูเหมือนว่าราคาสูงกว่าสินค้าตามท้องตลาด แต่ในความเป็นจริง คือ ราคาที่ตั้งมีเหตุผลและความสมเหตุสมผลมากกว่า

      เสริมอาหารหรือสินค้าเพื่อความงามคุณภาพดี ที่เปลี่ยนแปลงสุขภาพท่านให้ดีขึ้น บางทีดีจึ้นจนน่าอัศจรรย์ใจ เมื่อทุกอย่างดีขึ้น เราอดไม่ได้ที่จะต้องบอกต่อ ซึ่งการบอกต่อในกระบวนการธุรกิจเครือข่ายขายตรง. เป็นเรื่องของรายได้ เกียรติยศ เพื่อนใหม่ๆ เครือข่ายคุณภาพ สิ่งเหล่านี้จะทำให้มือใหม่หัดขายตรงอย่างเราๆ ท่านๆ ลืมเรื่องราคาของสินค้าไปเลย

      จริงเท็จอย่างไรโปรดใช้วิจารณญาณ อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าท่านจะลงมือศึกษา ทำความเข้าใจ

เขียนโดย
ภาสกร ผุยพงษ์
รองประธานกรรมการบจก.ริชไทมเน็ตเวิร์ค