วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หลุมพลางแห่งธุรกิจเครือข่ายขายตรง

   

    ใครที่ได้มีโอกาสเดินเฉียดกรายเข้าใกล้ธุรกิจขายตรง อาจจะเคยได้ยินประโยคยอดฮิตที่ว่า "ลงทุนครั้งเดียว เก็บเกี่ยวตลอดชีวิต" ผมได้ยินครั้งแรกก็ร้องเสียงหลง "ว้าวววววว" มีด้วยรึ ธุรกิจแบบนี้....ว่าแล้วเราก็มานั่งปูสื่อจับเข่า จับไหล่คุยกันยาวเลยดีกว่าครับ
     กรอบใหญ่ของคำว่า "ธุรกิจ" ย่อมต้องมีการลงทุนแน่นอน ใช่เลย "ธุรกิจขายตรง" ก็คือธุรกิจชนิดหนึ่งเช่นกัน จริงไม? ฉะนั้นย่อมต้องมีการลงทุนเกิดขึ้น และเมื่อธุรกิจขยายตัว เราเองก็ต้องมีเงินทุนที่มากขึ้นในการลงทุน ธุรกิจขายตรงก็เช่นกัน เมื่อขนาดธุรกิจขยาย ย่อมต้องมีการลงทุนเพิ่ม จริงไม?
     ผมตั้งข้อสังเกตด้วยตรรกะง่ายๆ เบื้องต้นทำให้ขยายขนาดความคิดออกไปว่า การทำธุรกิจขายตรง ไม่มีวันสะหรอกที่จะลงทุนครั้งเดียว แล้วเก็บเกี่ยวตลอดชีวิต.....
   
     เรามาดูกันว่าขั้นตอนและการลงทุนในธุรกิจเครือข่ายเกิดขึ้นในขั้นตอนใดบ้าง
   1. ลงทุนเวลาและกำลังสมองในการนั่งคิดทบทวนอย่างหนักก่อนจะตัดสินใจทำธุรกิจ ขณะที่คนชวนก็พร่ำไป ชักแม่น้ำทั้งโลกมากองตรงหน้าคุณ ขณะนั้นคุณต้องใช้พลังสมอง พลังอารมณ์ พลังการวิเคราะห์ นั้นละ คือ การลงทุน จริงไม?
   2. เมื่อตกลงปรงใจ ตัดสินใจแล้ว คุณก็เตรียมควักเงินจริงๆที่ใช้เป็นการลงทุน เพื่อเลือกหน่วยธุรกิจที่ท่านไหว
    หลายคนเบรคแค่ตรงนี้ แล้วกลับไปบ้านนั่งเฉยๆ กะให้เงินมันงอกเงยขึ้นมาเอง ซะงั้น....
    ย้ำนะครับว่านี้คือธุรกิจๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และให้มองข้ามพ้นข้อ 2 ไปสู่ข้อ 3
  3. งานพื้นฐานของขายตรง คือ การชวนคน ซึ่ง การชวนคนมีหลายรูปแบบ แบบขับรถไปหา แจกใบปลิว แจกนามบัตร หรือ การหาคนโดยใช้ระบบออนไลน์ ล้วนแล้วแต่ต้องลงทุนด้วยเวลา แรง และเงินทั้งนั้น
 4. งานบริหารทีมงาน  การสร้างทีมงานและการซื้อใจทีมงาน ล้วนแล้วต้องลงทุนด้วย กาย ใจ และเงินทอง เช่น ค่าโทรศัพท์ น้ำมันรถ เลี้ยงข้าว เห้นไหมครับว่านี้ก็ คือ การลงทุนเหมือนกัน
     
    ขนาดของธุกิจขายตรงที่เติบโต ย่อมต้องมีการขยายฐานธุรกิจตามมาเฉกเช่นธุรกิจทั่วๆไป ทรัพยากรต่างๆที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะรายได้  เรามักติดหลุมพลางว่า เงินทั้งหมดเป็นผลงานเรา 100% เพราะฉะนั้นเรามีสิทธิ์ที่จะใช้และเก็บเข้ากระเป๋าทั้งหมด ได้โปรดทบทวนใหม่กันอีกรอบ หากท่านปรารถนาที่จะทำธุรกิจขายตรงแบบยั่งยืน ได้โปรดพิจารณาเรื่องของการจัดการการเงินระยะยาวในเมื่อตอนองค์กรของเราขยายตัวมากขึ้น อย่าคิดเพียงแต่ว่าจะพึ่งพาผู้ที่ชวนเราทำธุรกิจ อย่าลืมว่าเขามีภาระมากมายกว่าเราเสียอีก ฉะนั้น การพึงตนเองและระลึกเสมอว่า นี้คือธุรกิจของฉัน จะนำพาซึ่งความสำเร็จมาสู่ท่านแน่นอน

      ข้ามให้พ้นหลุมพลางข้อ 2 ขึ้นมาพบกับความจริง ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป จนสุดท้ายเราก็ต้อง ย้ายสำมะโนครัวไปที่ใหม่อีก เหนื่อยไม? เบื่อไม?

เขียนโดย
ภาสกร  ผุยพงษ์
รองกรรมการผู้จัดการ บจก.ริชไทม เน็ตเวิร์ค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น