อ่านหัวข้อแล้วอาจจะดูขัดๆกับสิ่งที่หลายๆคนคุ้นเคย
แต่นี้คืออีกหนึ่งมุมมองที่จะนำไปสู่ปัจจัยแห่งความสำเร็จของการทำขายตรงจริงๆ
จริงอยู่ว่าโดยหลักการของขายตรง
มักมองว่า ทุกคนสามารถมีธุรกิจของตัวเองได้ ออกแบบการทำงานได้อย่างเป็นอิสระ
และสามารถประสบความสำเร็จร่ำรวยได้ในระยะเวลาไม่นานนัก
ซึ่งหลายๆคนที่ตัดสินใจเข้าสู่วงการขายตรงก็เพราะตื่นเต้นกับภาพเหล่านี้จนลืมตั้งคำถามว่า
เขาทำอย่างไรจึงสามารถประสบความสำเร็จได้แบบนั้น? และหลายคนก็มองไปเพียงเรื่องของรายได้ที่เขาได้รับ
แต่กลับไม่ถามต่อว่า เขาต้องจ่ายไปเท่าไหร่? จ่ายอะไรไปบ้าง?
ในมุมมองของผม
ขายตรงก็ คือ ธุรกิจประเภทหนึ่งที่ต้องอาศัยปัจจัยหลายๆอย่างประกอบกัน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง องค์ความรู้และทัศนคติ เงินทุน ความอดทนที่มากพอ
ฉะนั้นหากใช้ความคืดเพียงแค่ว่า
มาทำขายตรงเพราะอยากรวยเร็วเป็นความคิดที่ยังคิดไม่จบ
และเมื่อไปถึงกลางทางภาพที่เห็นไม่ได้เป็นอย่างที่คิด จึงเกิดอาการแป๊ก ผิดหวัง
ล้มเหลว และล้มเลิกไปตามระเบียบ
หากอยากทำขายตรงให้ประสบความสำเร็จนั้น
ก็จงทำตัวเป็นคนที่ใช่และหาคนที่ใช่สำหรับการทำขายตรงมาอยู่ในองค์กร
ผมยันยืนยันว่า "ไม่ใช่ใครก็ได้ที่เหมาะกับการทำธุรกิจขายตรง"
3 ใช่ที่เราควรใส่ใจในตัวเองและเลือกคนที่จะมาทำธุรกิจขายตรง
ทัศนคติที่ใช่
สิ่งนี้ขอยกให้เป็นอันดับหนึ่งตลอดกาล
หากสิ่งนี้ยังไม่ใช่อย่าเพิ่งคิดแม้แต่จะเดินออกจากบ้าน
ทัศนคติที่ใช่ในส่วนของการทำธุรกิจขายตรง คือ
สิ่งที่ผ่านการเรียนรู้ ศึกษา และมีประสบการณ์มาบ้าง
จนตนเองมีทัศนคติที่ดีต่อคำว่าธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการ
รู้จักการรับผิดชอบตัวเอง มีวินัย และรู้จักวางแผนด้วยตนเอง
ทัศนคติที่สำคัญที่จะนำมาใช้ทำขายตรงให้ประสบความสำเร็จ
คือ การคิดบวกมองหลายๆมุมให้เป็นจนเห็นข้อดี จนเชื่อว่าขายตรง คือ
สิ่งที่ใช่สำหรับเขา
หากจะเลือกใครเข้ามาร่วมทำขายตรงด้วยอาจจะต้องตั้งโจทย์ทดสอบทัศนคติของท่านเพื่อคัดเลือกเขาคนนั้น
เงินทุนที่ใช่
อย่างที่กล่าวมาแล้วเบื้องต้นว่า
ธุรกิจขายตรงก็คือธุรกิจประเภทหนึ่ง ซึ่งคำว่าธุรกิจก็ต้องมีเรื่องของเงินมาเกี่ยวข้องแน่นอน
ตั้งแต่เรื่องการลงทุนและผลกำไรที่จะได้รับกลับมา
นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่คนตัดสินใจมาทำธุรกิจขายตรงมองข้าม คือ การจัดการกระแสเงินสด
หลายคนเข้าใจผิดว่า
การทำธุรกิจขายตรงนั้นจบเพียงเรื่องของการลงทุนซื้อหน่วยธุรกิจ
แล้วไม่ต้องลงทุนอะไรอีกแล้ว
นั่นเป็นความคิดที่จะย้อนกลับมาทำให้เราผิดหวังในไม่ช้า
เพราะการทำขายตรงท่านต้องใช้เงินทุนเพิ่มเติมในแง่ของการตลาด การเรียนรู้
และจิปาถะที่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ
เราต้องจัดการการรับและการจ่ายหรือกระแสเงินสดให้รอบคอบ
โดยเฉพาะช่วงแรกของการทำธุรกิจที่อาจต้องใช้เงินลงทุนพอสมควร
ความอดทนที่ใช่
ข้อดีของธุรกิจขายตรง
คือ เป็นอาชีพอิสระ ไม่พอใจจะเลิกทำตอนไหนก็ได้
แต่ก็กลับเป็นข้อเสียสำหรับคนที่มีความอดทนต่ำแต่คาดหวังสูง
ตอนทำงานประจำนั้น
เราถูกบังคับด้วยระเบียบกฎเกณฑ์ของบริษัท ไม่พอใจก็ยังต้องทนทำเพื่อเงินเดือน
หรือถ้าไม่พอใจจนถึงขีดสุดก็ลาออกหาที่ทำงานใหม่ แต่ขายตรงตรงข้ามกับทั้งหมด
สำหรับการทำธุรกิจขายตรงนั้นต้องใช้ความอดทนมากกว่าการทำงานประจำเสียอีก
เพราะเราต้องบังคับตัวเองแบบสุดๆเพื่อประสบความสำเร็จให้ได้
ระหว่างทางนั้นตัวเองมักจะหลอกล่อตัวเองด้วยข้ออ้าง อคติ
ที่ยังไม่หลุดพ้นจากพื้นที่แสนสบายหรือ comfort zone จนหลายคนต้องตกหลุมพลางติดกับดักแล้วสุดท้ายก็โทษทุกอย่างนอกจากตัวเอง
และกลับไปยังจุดเดิมอีก ฉะนั้นยาที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ดีที่สุด คือยาแห่งความอดทนบนความมีระเบียบวินัยนี้เอง
3 ใช่ที่สำคัญนี้เป็นหลักสำคัญที่จะนำพาทุกคนไปสู่ความสำเร็จในการทำขายตรงได้
และผมขอย้ำอีกครั้งว่าหากยังมีไม่ครบ 3 ใช่อย่าเพิ่งตัดสินใจทำขายตรง
เพราะขายตรงไม่ใช่อาชีพที่ใครก็ทำได้สำเร็จ